สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อต้องแปลเอกสารทางกฎหมาย
อินเตอร์เน็ตเปรียบเหมือน “ประตูสู่โลก” สำหรับบริษัทแปลเอกสารทางกฎหมายกับลูกค้าในยุคดิจิทัล แต่การแยกแยะผู้เล่นที่น่าเชื่อถือจากคนที่ไม่น่าเชื่อถือในยุคนี้ทำได้ยาก ยิ่งเจอแต่ “คำโฆษณาชวนเชื่อ” ยิ่งไปกันใหญ่
ปัจจุบันลูกค้าทั่วโลกสามารถเข้าถึงบริษัทแปลเอกสารที่มีคุณภาพ ซึ่งหลายแห่งอาจตั้งอยู่ต่างภูมิภาคหรือต่างประเทศ ทำให้ลูกค้ามักประเมินบริษัทแปลเอกสารเหล่านี้จากระยะไกล ผ่านโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ต
ลูกค้าจึงยากที่จะรู้ว่าจะคาดหวังบริการแบบไหน กระบวนการทำงานเป็นอย่างไร อะไรคือสิ่งที่ทำให้บริษัทแปลเอกสารทางกฎหมายมีความน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจ
ความท้าทายของการแปลเอกสารทางกฎหมาย
อย่าทำผิดพลาดเป็นลูกค้าประเภทที่มองการเจรจาและร่างสัญญาเป็นแค่ "ปัญหา" ที่ต้องรีบจัดการให้พ้นๆ ถ้าต้องการให้ทุกฝ่ายเข้าใจขอบเขตที่แท้จริงของสัญญา ควรใช้เวลาหาบริษัทแปลที่มีคุณภาพมาช่วยชี้แจงประเด็นทางกฎหมายให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้ลูกค้าที่ต้องการแปลเอกสารทางกฎหมายอย่างมีคุณภาพอาจไม่รู้วิธีเลือกบริษัทแปลเอกสารทางกฎหมายที่ดี
หัวใจสำคัญคือเข้าใจความท้าทายของนักแปลกฎหมายก่อนและเข้าใจว่าการแก้ปัญหาเหล่านี้ นักแปลต้องเข้าใจหลักการและแนวคิดทางกฎหมายของทั้งสองภาษา
ปัญหาเรื่องคุณภาพของเอกสารแปลรับรองมักเกิดขึ้นเมื่อสายเกินแก้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้จึงต้องเข้าใจความท้าทายของนักแปลเมื่อต้องแปลเอกสารทางกฎหมาย
แรงกดดันจากกำหนดเวลาของงานแปลกฎหมาย
การทำความเข้าใจหลักการทางกฎหมายและตรวจสอบนั้นใช้เวลา โดยปกติแล้วบริษัทแปลเอกสารกฎหมายต้องการทำงานให้ดี แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา
การแปลเอกสารนั้นเต็มไปด้วยความละเอียดอ่อนทางภาษาซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจระบบกฎหมายของทั้งสองประเทศ บริบททางสังคมที่แตกต่างกันของคู่สัญญาและอีกหลายปัจจัย
ปัญหาของแนวคิดที่ “แปลไม่ได้”
บางศัพท์เฉพาะทางกฎหมายมีความเฉพาะเจาะจงต่อระบบกฎหมายของตนเอง ทำให้ถูกมองว่า “แปลไม่ได้” เนื่องจากแนวคิดทางกฎหมายที่อยู่เบื้องหลังมีความแตกต่างกันอย่างมาก ตัวอย่างเช่น แนวคิดของ “Habeas Corpus (คำสั่งศาล)” ที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ไม่มีอยู่ในประเทศอื่น หรือมีความหมายที่แตกต่างออกไป
ตัวอย่างอีกประเด็นคือคำว่า “Consideration (สิ่งตอบแทน)” ที่ใช้ในสัญญาตามกฎหมายสามัญ (Common Law) ของอเมริกา “Consideration (สิ่งตอบแทน)” เป็นหลักการสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหลายฉบับในอเมริกา ซึ่งการแปลคำนี้ไปเป็นภาษาอื่นโดยตรงนั้นไม่สามารถถ่ายทอดความหมายได้อย่างครบถ้วน จำเป็นต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติมอย่างละเอียด
ภาษาถ้อยคำทางกฎหมายและความแตกต่างตามภูมิภาค
ภาษาถ้อยคำทางกฎหมายก็มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างประเทศต่างๆ เช่นเดียวกับภาษาทางกฎหมายของฝรั่งเศส ซึ่งใช้แตกต่างกันในฝรั่งเศส แคว้นคิวเบก วอลโลเนีย เซเนกัล และพื้นที่ที่พูดภาษาฝรั่งเศสอื่นๆ
แม้แต่ภาษาถ้อยคำทางกฎหมายภายในภาษาเดียวกันก็ยังมีความแตกต่างกันได้ตามภูมิภาค ซึ่งความแตกต่างนี้ขึ้นอยู่กับความเป็นทางการ และโครงสร้างของระบบกฎหมาย คลังศัพท์ และสำนวนทางกฎหมาย
ภาษาถ้อยคำทางกฎหมายยังสะท้อนถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมที่แตกต่างกันของชุมชนนั้นๆ ด้วย
คำว่า “Jurisprudencia” ไม่มีความหมายทางกฎหมายเดียวกันในเม็กซิโกและสเปน เช่นเดียวกับคำว่า “Consideration” ที่มีความหมายทางกฎหมายต่างกันในคอนเนคทิคัตและลอนดอน
หลักไวยากรณ์ เครื่องหมายวรรคตอน และศัพท์เฉพาะทาง ในงานแปลเอกสารรับรอง
นอกเหนือจากคำศัพท์ เครื่องหมายวรรคตอนภายในบริบทของไวยากรณ์ก็สามารถเปลี่ยนความหมายได้เช่นกัน เช่นเดียวกับศัพท์เฉพาะทางที่ใช้ในแต่ละสาขา ซึ่งมุ่งเน้นการสื่อความหมายที่ละเอียดอ่อนและชี้แจงความคลุมเครือ
กุญแจสำคัญของงานแปลรับรองคุณภาพ คือ ความชัดเจน ความชัดเจนเกิดขึ้นได้จากความเข้าใจของนักแปลในหลักไวยากรณ์ เครื่องหมายวรรคตอนและความรู้ด้านศัพท์เฉพาะทางที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งมันคือหัวใจสำคัญของงานแปลเอกสารรับรองที่ดี
แนวคิดทางกฎหมาย
เนื่องจากแนวคิดทางกฎหมายมีผลกระทบต่อการดำเนินงานภายในระบบกฎหมาย ดังนั้นบางครั้งการแปลเอกสารทางกฎหมายจำเป็นต้องมีคำอธิบายประกอบเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบกฎหมายนั้นเข้าใจผลกระทบทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
ความชำนาญ
ความชำนาญคือหัวใจสำคัญเพื่อให้ความหมายของภาษา ศัพท์เฉพาะ แนวคิด ระบบ ฯลฯ ทางกฎหมาย ระหว่างสองสังคมสามารถเข้าใจได้โดยทุกฝ่าย
แม้จะมีความรู้ภาษาขั้นสูงก็ไม่ได้การันตีว่าจะแปลได้สำเร็จเสมอไป ความเข้าใจในความลึกซึ้งควบคู่ไปกับ ความรู้เชิงลึกในเนื้อหาที่แปลต่างหากที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง
ดังนั้นเราควรพิจารณาอะไรบ้างในการหาบริการแปลเอกสารทางกฎหมาย? ประสบการณ์ที่โชกโชนในงานแปลและความรู้ด้านภาษาที่แข็งแกร่งในทั้งภาษาต้นฉบับและภาษาปลายทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ด้านกฎหมาย
การแปลและการจัดการโครงการ
การทำวิจัยซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำความเข้าใจข้อความต้นฉบับมักจะเป็นลำดับแรกของกระบวนการแปลเพื่อให้ได้งานแปลที่มีคุณภาพ บางครั้งสำหรับโครงการแปลที่มีความยากเป็นพิเศษอาจมีการปรึกษาแหล่งข้อมูลภายนอกเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือแบ่งงานแปลโดยทีมนักแปล
ในกรณีที่ศัพท์เฉพาะหรือความคิดบางอย่างดูเหมือนว่าจะแปลตรงตัวไม่ได้ บางทีมงานอาจใช้วิธีการสรรค์สร้างใหม่ ซึ่งหมายถึงการตีความและถ่ายทอด “แนวคิดที่แปลไม่ได้” โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ความชัดเจนระหว่างสองภาษาเกิดขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทีมแปลที่มีคุณภาพจะมีผู้จัดการโครงการทำหน้าที่ดูแลหลายด้าน เช่น กระบวนการแก้ไข การสื่อสารกับลูกค้า และการควบคุมคุณภาพขั้นสุดท้าย
บริการแปลภาษาและบริการเสริม
การรับรองเอกสารแปลโดยการประทับตราและการรับรองเอกสารมักเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้เอกสารแปลสามารถใช้ยื่นต่อศาลได้รับการยอมรับในชั้นศาล
บางครั้งผู้ให้บริการแปลอาจใช้บริการเสริมเพื่อให้เอกสารแปลที่ผ่านการรับรอง ดูเรียบร้อย สวยงามและดูเป็นมืออาชีพ
ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่บริษัทแปลเอกสารทางกฎหมายทุกแห่งคำนึงถึงเมื่อรับงานแปลเอกสารเพื่อนำไปรับรอง หวังว่าความรู้เหล่านี้จะช่วยให้คุณประเมินคุณภาพของทีมแปลได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตอนพูดคุยกับทีมแปลหรืออ่านผลงานแปลของพวกเขา
หากต้องการนักแปลเอกสารด้านกฎหมาย ติดต่อ cs.seaproti@gmail.com หรือโทร +66 2 114 3128 หรือเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่ https://seaproti.com/
---
เกี่ยวกับสมาคมวิชาชีพนักแปลและล่ามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Association of Professional Translators and Interpreters - SEAProTI)
- สมาคมวิชาชีพนักแปลและล่ามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสมาคมวิชาชีพ ตั้งอยู่ที่ 33 อาคารบ้านราชครูห้อง 402 ซ.พหลโยธิน 5 ถ.พหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 จดทะเบียนเลขที่ 6037/2564 กับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และประกาศในราชกิจจานุกเบกษา อันเป็นที่ยอมรับของรัฐบาลและหน่วยงานราชการไทย เมือปี 2564
- "นักแปลรับรอง (Certified Translaors)" และ "ล่ามรับรอง (Certified Interpreters)" ของสมาคมวิชาชีพนักแปลและล่ามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จดแจ้งเป็นนักแปลรับรองและล่ามรับรอง ตามข้อบังคับ ข้อที่ 9 ว่าด้วย นักแปลรับรอง ผู้รับรองการแปล และล่ามรับรอง โดยเป็น "ผู้มีใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพนักแปลรับรอง ผู้รับรองการแปล และล่ามรับรอง ในนามสมาคมวิชาชีพนักแปลและล่ามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
- อาศัยความตามข้อที่ 46.1 และ 46.3 ของข้อที่ 46 หมวดที่ 9 ในข้อบังคับสมาคมวิชาชีพ ตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หน้า 227 เล่ม 138 ตอนที่ 83 ง ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2564 แห่งราชอาณาจักรไทย นั้น นักแปลรับรองและผู้รับรองการแปลต้องกระทำการแปลและรับรองการแปล ตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดในข้อที่ 47.1 และ 47.2 ของข้อที่ 47 หมวดที่ 10 ว่าด้วย ตราประทับนักแปล และข้อที่ 48 ว่าด้วย การรับรองการแปล